วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าผลการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ครั้งที่ ๑๓ ระหว่างวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน – ๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ เมืองพอร์ตหลุยส์ สาธารณรัฐมอริเชียส ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เข้าร่วม ประชุม ๑๘๑ ประเทศ โดยที่ประชุมได้พิจารณาและประกาศขึ้นบัญชี ‘Khon, masked dance drama in Thailand’ (การแสดงโขนใน ประเทศไทย) ในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอย่างเป็นทางการ
นายวีระ กล่าวว่า ถือว่าเป็นข่าวดีของคนไทยที่ โขน ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีจากยูเนสโกให้เป็นรายการตัวแทน มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งปี ๒๕๖๑ เป็นปีแรกที่ประเทศไทยนำเสนอรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ให้ยูเนสโกพิจารณาหลังจากประเทศไทยสมัครเข้าร่วมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ โดยมี พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. ๒๕๕๙ รองรับการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ และมีคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งมี รมว.วธ. เป็นประธานและมีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เป็นฝ่ายเลขานุการ ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลและ จัดทำเอกสารในการนำเสนอโขนต่อยูเนสโก
นายวีระ กล่าวว่า การแสดงโขนในไทยได้รับการสืบทอดต่อมา มีคณะโขนเกิดขึ้นหลายคณะ รวมถึงโขนเด็กและเยาวชน มีการจัดการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ที่สำคัญด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม ฟื้นฟู สืบสาน และพัฒนาการแสดงโขนในทุกมิติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างเครื่องแต่งกายเครื่องประดับโขนชุดใหม่ พัฒนาการแต่งหน้าให้งดงามดึงดูดความสนใจ พัฒนารูปแบบและเทคนิคการแสดง ฉากเวที แสง สี เสียง อันเป็นที่มาของโขนพระราชทาน ด้วยองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น จึงทำให้โขนไทยยิ่งใหญ่อลังการ สร้างความตื่นตาประทับใจ แก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นอกจากนี้ที่ผ่านมา สวธ.ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริมและดำเนินงานปกป้องคุ้มครองมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ได้ประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยมาตลอดตั้งแต่ปี ๒๕๕๒-๒๕๖๑ รวมจำนวน ๓๓๖ รายการ ทั้งนี้หลังโขนได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเป็นทางการแล้ว สวธ. ได้จัดทำแผนงานและกิจกรรมสำหรับเฉลิมฉลอง โขนตลอดปี ๒๕๖๒ อาทิ ๑. จัดแสดงโขนรอบพิเศษ ตอน "พิเภกสวามิภักดิ์” วันที่ ๓-๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ๒. จัดสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นรามเกียรติ์ ตอน รามาวตาร เพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และจัดเผยแพร่องค์ความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การสาธิตงานช่างฝีมือโขน สาธิตการแสดงโขน การเสวนาความรู้คุณค่าของโขน การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จัดพิมพ์หนังสือองค์ความรู้เกี่ยวกับโขนฉบับเยาวชน จัดทำสารคดีโขน นิทรรศการเผยแพร่ความรู้ รวมทั้งการ จัดทำคลังข้อมูลโขนในรูปแบบดิจิทัล
๓. จัดกิจกรรมสร้างความภาคภูมิใจด้วยการยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับบุคคล องค์กรผู้ทำ คุณประโยชน์ต่อวงการโขน และ ๔. จัดงานมหกรรมการแสดงโขน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เป็นต้น
อนึ่ง"โขน”เป็นนาฏศิลป์และศิลปะชั้นสูงที่เก่าแก่ของไทยมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีเอกลักษณ์โดดเด่น รวมศาสตร์และศิลป์หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกันทั้งนาฏศิลป์ ดนตรี วรรณกรรม พิธีกรรมและงานช่างฝีมือต่าง ๆ โขนเป็นมหรสพที่บรรพชนไทยสร้างสรรค์ขึ้นและยังคงสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนปัจจุบันมีการบรรจุหลักสูตรการเรียน การสอนโขนในสถาบันการศึกษาหลายระดับ คุณค่าของโขน จึงมิใช่แค่เพียงศิลปะการแสดงแต่ยังผสานและสะท้อนถึงวิถีแห่งความเป็นไทยไว้อย่างชัดเจนอย่างไรก็ตาม คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ยังได้เสนอ นวดไทย เพื่อขึ้นบัญชีของยูเนสโก ในรอบปี ๒๕๖๓ แล้ว ตลอดจนยังมีการศึกษาแนวทางการเสนอมรดกวัฒนธรรมภูมิปัญญาที่มีความคล้ายคลึงกันกับประเทศต่างๆ เพื่อเสนอเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ (รมว.วธ.) ยังได้กล่าวแสดงความยินดีที่"ลครโขลของวัดสวายอันเด็ด” ( Lkhon Khoal Wat Svay Andet) ของประเทศกัมพูชา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ต้องการสงวนรักษาโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อนกับการขึ้นทะเบียนการแสดงโขนในประเทศไทย เนื่องจากการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาฯ เป็นความภาคภูมิใจของประเทศที่นำเสนอให้ขึ้นทะเบียนไม่ใช่การจดลิขสิทธิ์หรือการแสดงความเป็นเจ้าของแต่อย่างใด ที่สำคัญการแสดงโขนของกัมพูชาและการแสดงโขนในประเทศไทยต่างมีแบบแผนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและเป็นเครื่องแสดงความภาคภูมิของประเทศ |