กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
เว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้
font size small font size normal font size big
หน้าแรก
Search


ข่าวสาร >> ข่าวประชาสัมพันธ์
นักเขียนยอดเยี่ยม ๖ ชาติ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา จีน (ยูนนาน) และไทย เข้ารับรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง สัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและมิตรภาพทางวรรณกรรมในภูมิภาค

วันที่ 26 ส.ค. 2560

          เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานและมอบโล่รางวัล "วรรณกรรมแม่น้ำโขง” หรือ Mekong River Literature Award : MERLA รางวัลนานาชาติสำหรับนักเขียนในประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง จัดโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ
 
          รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง มีสมาชิกชาติต่างๆ ได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา จีน (ยูนนาน) และไทย รางวัลนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและมิตรภาพทางวรรณกรรมในภูมิภาค ตามแนวทางของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ และการหารือระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมของสมาคมนักเขียนทุกประเทศในลุ่มน้ำโขงอีกด้วย โดยภายในงานมีกล่าวสุนทรพจน์ โดยนักเขียนรางวัลแม่โขงอวอร์ดทั้ง ๖ ชาติ ในหัวข้อ "การเขียนในยุคมนุษย์สร้างสรรค์และทำลายสิ่งแวดล้อม” และ "มนุษยทัศน์ในกระแสวัฒนธรรมสำนึก” อีกด้วย ​
 
          ทั้งนี้ นักเขียนชาวไทย ๒ คนที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในปีนี้ คือ เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ นักเขียนและกวีชื่อดัง จากผลงานสร้างสรรค์ประเภทร้อยกรอง (poetry) และ วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนสารคดีมือทอง จากผลงานสร้างสรรค์ประเภทร้อยแก้ว (prose) ​
 
          นางกนกวลี พจนปกรณ์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง หรือ แม่น้ำโขงอวอร์ด (Mekong River Literature Award : MERLA)” เป็นรางวัลระดับนานาชาติสำหรับคนวรรณกรรมในประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง จัดขึ้น โดยกองทุนวรรณกรรมลุ่มน้ำโขง เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยความริเริ่มของสมาคมนักเขียนแห่งเวียดนาม มีสมาชิกประกอบด้วย ๖ ประเทศคือ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา จีน (ยูนนาน) และไทย โดยรางวัลดังกล่าวได้ยกย่อง ให้เกียรติ และส่งเสริมความรู้ ความสามารถของนักเขียน ซึ่งแสดงออกถึงอัตลักษณ์ประจำชาติ ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างนักเขียนในภูมิภาค เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความปรารถนาดี มิตรภาพ และพัฒนาการทางวัฒนธรรมของภูมิภาคและของโลก โดยยึดมั่นในหลักการมนุษยธรรม รางวัลดังกล่าวมีการมอบรางวัลเป็นประจำทุกปี ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานในปีนี้เป็นครั้งแรก ​
 
          "หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัล ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้พิจารณาร่วมกันในทั้ง ๖ ประเทศ คือนักเขียนต้องทำงานวรรณกรรมที่มีคุณค่าทางศิลปะ ให้เกียรติแก่มนุษยชาติ มีความรักความศรัทธาในการเชื่อมโยงวัฒนธรรมชุมชนกับโลก โดยปีนี้ในส่วนของประเทศไทย คณะกรรมการมีความคิดเห็นตรงกันในการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลทั้ง ๒ ประเภทคือร้อยแก้วและร้อยกรอง โดยงานของ "คุณวีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง” ซึ่งเป็นงานประเภทร้อยกรองนั้น เป็นสารคดีที่บอกเล่าถึงวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งชุมชนคนต้นแบบ คนชายขอบ ชาติพันธุ์ คนพิการ คนด้อยโอกาส ทั่วทั้งสังคมของประเทศ อันสะท้อนถึงความจริง ความดีงาม ที่ช่วยสร้างสรรค์ให้เกิดพลังและแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงแก่นแห่งศักดิ์ศรีของมนุษย์ ขณะที่ผลงานของ "คุณเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์” นั้น มีการผสานระหว่างน้ำคำและอารมณ์ที่น่าประทับใจ พลังแห่งงานที่ถูกกลั่นกรองออกมาคือเนื้อหาที่แยบยลอย่างเต็มไปด้วยคุณค่าทางศิลปะที่รุกเร้า แต่อ่อนโยนสู่การรับรู้ นับเป็นวิถีธรรมในความหมายของการประพันธ์” นางกนกวลีกล่าว
 
          นางกนกวลี กล่าวอีกด้วยว่า หวังว่ารางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง หรือ แม่น้ำโขงอวอร์ด (Mekong River Literature Award : MERLA) นี้ จะช่วยกระตุ้นให้นักอ่านสนใจงานวรรณกรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ที่ต่างก็จะสะท้อนภาพและเรื่องราวของแต่ละประเทศลุ่มแม่น้ำโขงผ่านงานวรรณกรรม และเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาความร่วมมือ ความเข้าใจ และมิตรภาพระหว่างประเทศอีกด้วย "เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ สมาคมนักเขียนตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด และคิดว่าเรามีศักยภาพเพียงพอที่จะทำได้ โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนคือ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิเอสซีจี (SCG FOUNDATION) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ โดยนอกจากจะมีพิธีมอบโล่รางวัลจากพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีแล้วนั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ อาทิ งานเลี้ยงอาหารค่ำที่ Victor Club โรงแรม Modena by Fraser Bangkok, การนำคณะนักเขียนจากทุกประเทศ เข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม, เยี่ยมชมนิทรรศรัตนโกสินทร์”
 
          นายเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ นักเขียนรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ปีนี้ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในยุคสมัยที่งานเขียนถูกโดดเดี่ยวจากผู้อ่านหรือสังคมโดยรวม "ผมมองว่างานวรรณกรรมก็คือการชำระประวัติศาสตร์กระแสหลัก ประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน ประวัติศาสตร์ที่ก่อให้เกิดบาดแผลและความบาดหมางระหว่างประเทศร่วมภูมิภาค ดังนั้นรางวัลอาจทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปรแก้ไขความผิดพลาดต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นในอดีตได้ และยังส่งเสียงสะท้อนไปถึงประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่า ในกรณีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันอย่างเอาเปรียบ เช่น แม่น้ำ เป็นต้น”
 
          และนักเขียนไทยผู้คว้ารางวัลอีกรายหนึ่ง นายวีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง เปิดเผยว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้แม้จะตกใจบ้างก็ตามที เพราะปีก่อนหน้านั้นนักเขียนที่ได้รับส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ และอีกความรู้สึกคือขอบคุณสำหรับเกียรติที่มอบให้ เพราะงานเขียนแนวสารคดีที่ทำอยู่ ไม่ได้เป็นงานแนวกระแสที่มีคนอ่านกลุ่มใหญ่มากมาย แต่การที่มีคนมองเห็น ทำให้รู้สึกถึงคุณค่าของผลงาน ว่ามีคนมองเห็นในเนื้องานที่ทำ "รู้สึกว่าตัวเองยังทำงานน้อยอยู่มากเมื่อเปรียบเทียบกับนักเขียนท่านก่อนๆที่รับรางวัลมา ซึ่งหลายท่านก็เป็นไอดอลของผมจริงๆในช่วงเริ่มหัดเขียนหนังสือ ผมได้แบบอย่างจากบุคคลเหล่านี้ เป็นต้นทางของผมก็ว่าได้ จึงเป็นเกียรติและภาคภูมิอย่างยิ่ง และเป็นเสมือนพันธะสัญญาว่าจะต้องทำงานเขียน ที่จรรโลงสังคมในภูมิภาคนี้ ทั้งในแง่สังคมและสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำสายนี้ต่อไป”
 
          ในส่วนของนักเขียนอีก ๕ ประเทศ ที่ได้รับรางวัลมีดังนี้ เวียดนาม คือ "ฮุน คิม ฮวง” และ "ตราน เนือง” ลาว คือ "ดาลีวัน ศิตพระไช” และ "แก้วบุนทัน แก้วประกาศิต” กัมพูชา คือ "เขียว โกศล” และ "แสง จันเฮง” เมียนมา คือ "ขิ่น ยู สเว” และ "ดอว์ มีนต์ มีนต์ คู” จีน (ยูนนาน) คือ "หลิว หยูหง” และ "หน่า จาง หยวน”
 
          ทั้งนี้ งานมอบ "รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง” ประเทศเวียดนาม ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานในปีพุทธศักราช ๒๕๖๑
ลิขสิทธิ์ของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำหรับใช้ประโยชน์เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์ | การปฏิเสธความรับผิด (Disclaimer)