กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายสมาคมกลองและศิลปะการแสดงล้านนา ร่วมกันจัดกิจกรรมการประกวดตีกลองสะบัดชัย หวังสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นกำลังหลักร่วมสืบสาน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ศิลปะการแสดงพื้นบ้านของภาคเหนือให้เกิดความยั่งยืน เมื่อวันเสาร์ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธาน การประกวดตีกลองสะบัดชัย ภายใต้โครงการส่งเสริม สนับสนุนศิลปะการตีกลองสะบัดชัย โดยมีนายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นายธนวัฒน์ ราชวัง นายกสมาคมกลองและศิลปะการแสดงล้านนา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน โดยมีนางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) พร้อมด้วยผู้บริหารงานวัฒนธรรมร่วมงาน
โดยการประกวดการตีกลองสะบัดชัย นี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ให้งบประมาณสนับสนุนให้สมาคมกลองและศิลปะการแสดงล้านนา ดำเนินการจัดประกวดการตีกลองสะบัดชัย ภายใต้โครงการส่งเสริม สนับสนุนศิลปะการตีกลองสะบัดชัย ประจำปี ๒๕๖๐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้เกิดการอนุรักษ์ สืบทอดการแสดงการตีกลองสะบัดชัยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยจัดให้มีการการถ่ายทอดองค์ความรู้ศิลปะการตีกลองสะบัดชัย สู่เด็ก เยาวชน และประชาชน สามารถส่งเสริมให้เกิดคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งยังส่งเสริมให้คนในชุมชน สังคม เกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น
กิจกรรมประกอบด้วย ๑.การฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เด็ก เยาวชน และประชาชนจำนวน ๒๐ แห่งๆ ใน ๘ จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน รวม ๓๐๐ คน ๒.นิทรรศการเผยแพร่ประวัติและองค์ความรู้ในการแสดงตีกลองสะบัดชัย และ ๓.การแข่งขันประกวดตีกลองสะบัดชัย ซึ่งมีคณะที่เข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ทั้งสิ้น ๒๑ คณะ
ผลการประกวดการตีกลองสะบัดชัย ประจำปี ๒๕๖๐ ปรากฏว่า
- ชนะเลิศอันดับ ๑ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้เยาวชนรักษ์ถิ่นเกิด จังหวัดเชียงใหม่
- รองชนะเลิศอันดับ ๒ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้เยาวชนสืบสานศิลปวัฒนธรรมล้านนา จังหวัดเชียงราย
- รองชนะเลิศอันดับ ๓ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ลูกแม่อิ จังหวัดเชียงใหม่
- ชมเชย ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้สลีปิงใจแก้วกว้าง จังหวัดเชียงใหม่ และ ศูนย์การเรียนรู้เยาวชนต้นกล้าบ้านต๊ำ จังหวัดพะเยา |