เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๐ ที่กระทรวงวัฒนธรรม พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ครั้งที่ ๑ /๒๕๖๐ ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางและมาตรการรณรงค์ "สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ทุกชีวาปลอดภัย” เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๖๐ ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.)เสนอ โดยสวธ.ได้บูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ๑๔ หน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร กรมขนส่งทางบก กรมชลประทาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น เพื่อจัดงานประเพณีสงกรานต์ ๒๕๖๐ ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ทุกชีวาปลอดภัย” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ เม.ย.นี้ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคโดยปีนี้มุ่งรณรงค์ ๓ มาตรการหลักคือ การแต่งกายเล่นน้ำด้วยชุดสุภาพ ใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า รวมถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันสืบสานประเพณีสงกรานต์แบบไทยผ่านโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ลานวัฒนธรรมมีการจัดกิจกรรมอาทิการทำความสะอาดบ้านเรือน วัดและสถานที่สาธารณะฟังเทศน์ ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ส่วนผู้นับถือศาสนาอื่นอาจจัดกิจกรรมตามประเพณีของแต่ละศาสนา รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนแต่งกายด้วยชุดและสีที่สุภาพ หรือชุดผ้าไทยที่มีสัญลักษณ์แสดงความอาลัย และขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ภาคเอกชนและประชาชนจัดกิจกรรมการแสดงต่างๆ ให้คำนึงถึงความเหมาะสม
นอกจากนี้ มีการรณรงค์การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และดูแลไม่ให้มีการเล่นน้ำที่ไม่เหมาะสม รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนให้เล่นน้ำอย่างสุภาพ ไม่ใช้ปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง ไม่ใช้สายยางฉีดน้ำ ไม่เล่นแป้งหรือเล่นสีต่างๆ ไม่ใช้น้ำที่เย็นจัดหรือน้ำปนน้ำแข็งมาเล่นสาดน้ำกัน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ขอความร่วมมือสถานประกอบการขนส่งและประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือไปท่องเที่ยวให้ตรวจสภาพยานพาหนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากที่สุด และปฏิบัติตามกฎหมาย กฎจราจรอย่างเคร่งครัดด้วย รวมทั้งสวธ.จะจัดทำการ์ดอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์แจกจ่ายให้แก่ประชาชน เพื่อส่งความสุขในปีใหม่ไทยให้แก่กันด้วย
พลเอกธนะศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ สวธ. จัดงานเทศกาลสงกรานต์ในส่วนกลางจัดงานใน ๓ พื้นที่ ได้แก่ ๑.หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ ๑๑ เม.ย. เวลา ๑๓.๐๐ น. มีกิจกรรมประกอบด้วย การรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ และผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นิทรรศการคุณค่า ประเพณีสงกรานต์ การสาธิตชุดรดน้ำขอพร ๔ ภาค การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน-การละเล่นพื้นบ้าน การสาธิตอาหารในเทศกาลสงกรานต์ ๒.ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๖ เม.ย. เวลา ๑๑.๐๐.-๒๑.๐๐ น. และ ๓.สยามสแควร์ ภายใต้ชื่องาน "สงกรานต์เมษา ผ้าขาวม้ายกสยาม” ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เม.ย. มีกิจกรรมประกอบด้วย ขบวนแห่ สรงน้ำพระประจำวันเกิด การแสดงพื้นบ้านและการแสดงต่างๆ
นอกจากนี้ สวธ. ร่วมกับภาคีเครือข่ายและจังหวัดจัดงานสงกรานต์อาเซียน ประจำปี ๒๕๖๐ ในจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเพณีสงกรานต์ เป็นสื่อในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ กำหนดจัดใน ๓ จังหวัด ได้แก่ ๑.ประเพณีสงกรานต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมจังหวัดเลย – สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๖ เม.ย. ณ อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ๒. ประเพณีสงกรานต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมจังหวัดตาก – เมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระหว่างวันที่ ๑๓- ๑๖ เม.ย. ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ๓.ประเพณีสงกรานต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย – แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๗ เม.ย. ณ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย รวมทั้งจัดงานประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน ประจำปี ๒๕๖๐ ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๑๗ เม.ย. ณ เทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี ขณะเดียวกัน สวธ. ได้สนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ๗๑ จังหวัด ในการจัดการแสดงพื้นบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้านให้แพร่หลายมากขึ้น ทั้งนี้ ประชาชนสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม ๑๗๖๕
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า วธ. ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ มี.ค. ๒๕๖๐ เห็นชอบเอกสารนำเสนอโขนและเอกสารนำเสนอนวดไทย เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ตามที่ วธ. เสนอ โดยจะมีการเสนอเรื่องต่อไปยังยูเนสโกตามลำดับขั้นตอนต่อไป