มาดามแป้ง เคาะ ๒๑ โครงการ รับทุนครั้งที่ ๒ ปี ๒๕๖๘ ผลักดันส่งเสริมศิลปินแห่งชาติและเครือข่ายศิลปวัฒนธรรม ให้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมว่า เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ว่าคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีนโยบายสนับสนุนการขับเคลื่อน Soft Power ความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ มุ่งส่งเสริมวัฒนธรรม และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะมิติทางด้านวัฒนธรรม ที่จะมีส่วนผลักดันสังคมและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยภาพรวมการส่งเสริม สนับสนุน ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๖๘ (ไตรมาส ๑) ได้ให้การส่งเสริมโครงการด้านศิลปวัฒนธรรมของศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรม ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ศิลปินพื้นบ้าน คณะบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ รวมทั้งสิ้น ๔๐๑ โครงการ เป็นจำนวนเงินกว่า ๑๙๔,๙๗๖,๒๕๔ บาท (หนึ่งร้อยเก้าสิบสี่ล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นหกพันสองร้อยห้าสิบสี่บาทถ้วน)

ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับในปี ๒๕๖๘ กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีผู้สนใจยื่นขอรับทุน ๗๙ โครงการ ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ ได้พิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อรับทุน ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ว่าด้วยเงื่อนไขและรายละเอียดของโครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับการอุดหนุนจากกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๑ ไปแล้วจำนวน ๑๒ โครงการ เป็นเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านบาทถ้วน) และในการประชุมครั้งนี้ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน เผยแพร่การดำเนินงานด้านศิลปวัฒนธรรมของบุคคล คณะบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ ภายใต้โครงการสนับสนุนการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๒ ได้พิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อรับทุน (เพิ่มเติม) อีกจำนวน ๒๑ โครงการ ภายในวงเงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านบาทถ้วน) โดยมีศิลปินแห่งชาติ ทั้ง ๓ สาขา ได้รับการสนับสนุน จำนวน ๑๖ ท่าน ทายาทศิลปินแห่งชาติ ได้รับการสนับสนุน จำนวน ๑ ท่าน หน่วยงานภาครัฐ ได้รับการสนับสนุน จำนวน ๒ แห่ง และมูลนิธิฯ ได้รับการสนับสนุน จำนวน ๒ แห่ง และจากรายละเอียดโครงการที่ได้รับทุน ๒๑ โครงการ คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมาย นักเรียน นักศึกษา เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปจากทั่วประเทศ ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมมีทั้งในรูปแบบ Onsite และแบบ Online จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๕๖,๘๓๐ คน อาทิเช่น สาขาทัศนศิลป์ ๑) โครงการตาเห็นใจเห็น : ๘๐ ปี เดชา วราชุน ของศาสตราจารย์เดชา วราชุน ๒) โครงการถ่ายทอดภูมิปัญญาศิลปินแห่งชาติ ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการทางทัศนศิลป์ กิจกรรม "นวการลากและระบาย” ของศาสตราจารย์พิเศษอารี สุทธิพันธุ์ ๓) โครงการฝึกอบรมเด็กและเยาวชน เรียนรู้ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ศูนย์การเรียนรู้ผ้าจกเมืองลอง ของนางประนอม ทาแปง ๔) โครงการ ANAND PANIN RETROSPECTIVE ของนายอนันต์ ปาณินท์ ๕) โครงการสานศิลป์ล้านนา สล่าสลักดุน ของนายดิเรก สิทธิการ สาขาวรรณศิลป์ ๑) โครงการจัดพิมพ์หนังสือรวมกวีนิพนธ์ ของชมัยภร แสงกระจ่าง (บางคมบาง) ชื่อเล่มว่า "ธารน้ำค้างบนดอกบัวขาว” ๒) โครงการเผยแพร่บทกวีนิพนธ์ยอพระเกียรติ ของนายบุญเตือน ศรีวรพจน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ๓) โครงการหนังสือภาพเพื่อเด็ก เรื่องเล่าจากท้องทะเล เล่มที่ ๑ "ทะเล ดวงดาว และ เด็กน้อย”ของนายอัศศิริ ธรรมโชติ ๔) โครงการจัดทำหนังสือบทนิพนธ์คัดสรรของสถาพร ศรีสัจจัง (พนม นันทพฤกษ์) ชุด "ดั่งผีเสื้อเถื่อนและทาง” (โลกทัศน์แห่งเส้นทาง) ๕) โครงการสืบ รู้ ลาน ของนายเจริญมาลาโรจน์ (มาลา คำจันทร์) ๖) โครงการสร้างสรรค์วรรณศิลป์ กวีนิพนธ์ นิสิต นักศึกษา ระดับอุดมศึกษา ของนายไพวรินทร์ ขาวงาม ๗) โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างครูต้นแบบสอนการเขียนเชิงสร้างสรรค์ (การเขียนบทร้อยกรอง เรื่องสั้น นวนิยายและสารคดี) ครั้งที่ ๔ ของรองศาสตราจารย์ธัญญา สังขพันธานนท์ สาขาศิลปะการแสดง ๑) โครงการลำตัดสัญจร ศิลปะดนตรีเพื่อการเรียนรู้ ฟื้นฟูใจ ของนางศรีนวล ขำอาจ ๒) โครงการโรงเรียนตายายย่าน รุ่นที่ ๒ ของนางกั้น เชาวพ้อง ๓) โครงการบันทึกดนตรีหนังตะลุง และผลิตสื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ ของนายควน ทวนยก ๔) โครงการฝึกทักษะการแสดงโนรา ดนตรี และฝึกร้อยลูกปัดเบื้องต้น ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ เครือข่ายอื่น ๆ ๑) โครงการเสวนาวิชาการทางดนตรี "สมานวิชาการ” หัวข้อ "เล่าขานเยือนยิน ยลถิ่น บ้านครูสมาน” ของนายจิรวุฒิ กาญจนะผลิน ทายาท นายสมาน กาญจนะผลิน ๒) โครงการพัฒนา "เครือข่ายสล่าล้านนาและศิลปินล้านนา” เพื่อการท่องเที่ยวชุมชนหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านสร้างสรรค์ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง ของคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๓) โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างสรรค์ งานศิลป์ จินตนาการ สู่ความเป็นรูปเลิศด้านศิลปะและวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย ของสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ๔) โครงการเล่นขยับเรา เล่าขยับโลก ของมูลนิธิกุมุท จันทร์เรือง และ ๕) โครงการ ๗๐ พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ของมูลนิธิศิลปินแห่งชาติ เป็นต้น ในนามประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม จึงขอแสดงความยินดีกับโครงการที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุน ในครั้งที่ ๑ จำนวน ๑๒ โครงการ และในครั้งนี้อีก จำนวน ๒๑ โครงการ รวมมีโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนในปี ๒๕๖๘ จำนวนทั้งสิ้น ๓๓ โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ ทั้ง ๓๓ โครงการดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาบุคลากร พัฒนาวงการศิลปวัฒนธรรมไทย ให้มีความเข้มแข็งยั่งยืน เป็นพลังในการขับเคลื่อน Soft Power ความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ ตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ต่อไป