
ผ้าย้อมคราม คือ ผ้าที่ทอด้วยมือหรือทอด้วยเครื่องจักรที่ย้อมสีด้วยครามธรรมชาติ มีเฉดสีฟ้าถึงสีน้ำเงินเข้ม ผ้าย้อมครามนิยมใช้กันแพร่หลายในหลายเขตพื้นที่ของโลก โดยเฉพาะในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินเดีย ลาวและประเทศไทย เนื่องจากมีองค์ความรู้ในการปลูกต้นครามและการย้อมคราม สำหรับประเทศไทย ผ้าย้อมครามมีมากในภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดสกลนครซึ่งมักจะย้อมครามที่เส้นฝ้ายก่อนนำไปทอด้วยมือให้เป็นผืน หรือมัดหมี่ให้เป็นลวดลายก่อนแล้วจึงนำไปย้อมและทอมือด้วยกี่พื้นบ้าน เกิดเป็นผ้ามัดหมี่ทอมือย้อมครามที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ในปัจจุบันมีการผสมเทคนิคใหม่ๆ เช่นการมัดย้อม การเขียนเทียน บาติก เพื่อให้ได้ลวดลายและสีสันที่ร่วมสมัย
ผ้าย้อมคราม นับว่าเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษตั้งแต่ครั้ง ปู่ ย่า ตา ยาย โดยการทอไว้ใช้เองในครอบครัวซึ่งแต่เดิมจะเย็บด้วยมือไว้เป็นเสื้อผ้าสวมใส่สำหรับผู้หญิง ส่วนผู้ชายจะทอเป็นผ้าขาวม้าใส่นุ่งแบบโจง กะเบน หรือ ผ้าเตี่ยว โดยการทำผ้าย้อมครามซึ่งถือเป็นหัตถกรรมเกษตรเพราะนอกจากต้องใช้ฝีมือและประสบการณ์ในการทอผ้า ยังต้องใช้ความรู้ความสามารถในการปลูกครามด้วย ซึ่งหมู่บ้านหลายๆ แห่งในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ที่ทำอาชีพทอผ้าย้อมคราม นอกจากจะได้เห็นกระบวนการทำผ้าย้อมครามแล้ว ก็จะเห็นการปลูกคราม ความมหัศจรรย์ของการย้อมผ้าคราม คือ กระบวนการเกิดสี ที่แปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยแวดล้อมทางวิทยาศาสตร์
สำหรับวิธีการหลักๆของการย้อมคราม โดยทั่วไปคือการใช้ครามจากสีที่ได้จากธรรมชาติในท้องถิ่น ส่วนผสมหลักเป็นใบคราม และน้ำคั่งหรือน้ำขี้เถ้า จากนั้นนำผ้าฝ้ายสีขาวจุ่มลงไปจะได้ผ้าสีเขียว และเมื่อบิดน้ำออกผ้าจะกลายเป็นสีคราม ย้อมอย่างน้อย ๓ น้ำเพื่อให้สีครามซึมเข้าไปในเนื้อผ้าจนกว่าจะได้สีอ่อน หรือแก่ตามต้องการ ในการย้อมสามารถย้อมได้ทั้งผืน หรือย้อมเฉพาะบางส่วน โดยใช้เชือกฟางมามัดตรงส่วนที่ไม่ต้องการให้สีติดก่อนจะนำไปย้อมในน้ำคราม หลังจากที่นำมาผ้าไปย้อมแล้วจะนำมาตากให้แห้ง ก่อนจะนำไปม้วนเก็บให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ฝ้ายติดกันก่อนจะนำไปทอต่อไป สามารถนำไปทอเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าซิ่น หรือผ้าสำหรับตัดเสื้อก็ได้ ผ้าที่ได้ใส่แล้วเย็นสบาย กลิ่นหอมที่ได้จากการย้อมสีธรรมชาติ สีสวยคงทน นับเป็นภูมิปัญญาไทยอย่างหนึ่งที่ควรอนุรักษ์ไว้
ปัจจุบันผ้าย้อมคราม เป็นของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมายาวนาน เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า "ผ้าผิวสวย” เพราะเป็นผ้าที่ผ่านการย้อมด้วยกระบวนการแบบพื้นบ้านโบราณ ไร้สารเคมี ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ใส่แล้วทำให้รู้สึกเย็นสบาย ขณะที่แพทย์พื้นบ้านโบราณยังเชื่อว่า กลิ่นหอมของผ้าทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย สำหรับผ้าคราม ในจังหวัดสกลนคร มีผู้ผลิตอยู่หลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อเป็นของดีประจำถิ่นคือที่บ้านโนนเรือสามัคคี ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นการร่วมกลุ่มแม่บ้านกว่า ๖๐ ครัวเรือน โดยมีคุณแม่วารี ไชยตะมาตย์ เป็นประธานกลุ่มแม่บ้านฯ ซึ่งมีทักษะและฝีมือในการทอผ้า จึงได้ถายทอดสอนสมาชิกในกลุ่มให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ตั้งแต่กระบวนการย้อม ไปจนถึงขั้นตอนการทอผ้าย้อมครามเพื่อจำหน่าย ซึ่งมีรางวัลต่างๆการันตีมากมาย อาทิ รางวัลผ้าย้อมคราม ประเภทแปรรูปกระเป๋า เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗,รางวัลสุดยอดผ้าย้อมครามประเภทผ้ามัดหมี่ลายสร้างสรรค์ ปี พ.ศ.๒๕๓๗, รางวัลชมเชยในการประกวดผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ประเภทผ้าปูโต๊ะอาหาร เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗, รางวัลชนะเลิศที่ ๑ ในการประกวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหาร ผ้าฝ้ายทอมือประเภทผ้าทอลายจากโครงสร้างผ้าและมีตัวอย่าง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗, รางวัลชนะเลิศการประกวดผ้าฝ้ายคลุมไหล่ งานวันเกษตรภาคอีสาน เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๗ รวมทั้งได้รับการคัดสรรเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ ๔ ดาว ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒, ได้รับการคัดสรรการเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ ๕ ดาว ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ปัจจุบันทางกลุ่มยังผลิตสินค้ากันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในช่วงนี้ก็มีการผลิตผ้าปิดจมูก งานสีธรรมชาติเป็นผ้าฝ้ายทอมือออกมาจำหน่ายด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อสินค้า กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโนนเรือสามัคคี (โฮมครามวารี) โทร.๐๘๗-๗๒๓๙๐๑๖ หรือเข้าชมสินค้าผ่านช่องทาง Facebook : ผ้าย้อมครามบ้านโนนเรือ สกลนคร ๐๘๗-๗๒๓๙๐๑๖
................................................
ภาพ : ณัฐนิช ชนะฤทธิชัย ( The Cloud : readthecloud.co )