
ถ้าบอกว่า "หนุมาน” มิใช่ลูกพระพาย หลายคนคงเกิดความสงสัย เพราะทุกคนที่อ่านหรือดูโขนเรื่อง "รามเกียรติ์” ย่อมเข้าใจว่าลิงเผือกที่เป็นทหารเอกของพระรามนั้นเป็นลูกพระพาย เพราะกล่าวถึงทีไรก็มักจะเรียก "วายุบุตร” แทบทุกครั้ง แล้วความคิดนี้มาจากไหน ครั้งหนึ่งหนังสือศิลปวัฒนธรรมได้เคยนำแนวคิดเรื่อง "หนุมานเป็นลูกใคร” ของยาขอบ ผู้แต่งผู้ชนะสิบทิศมาเปิดประเด็นให้คนอ่านได้อภิปรายกัน ปรากฏว่ามีผู้เสนอความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรกยืนยันอย่างแข็งขันว่า หนุมานเป็นลูกพระพายแน่นอน เพราะในเนื้อเรื่องและนางสวาหะผู้เป็นแม่ก็ถือเช่นนั้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งกลับเห็นต่าง ซึ่งเห็นว่าอย่างไร เราจะได้นำมาเล่าสู่กันฟังกัน ดังนี้ กลุ่มที่เห็นต่างออกไปนี้ เขาไปจับประเด็นและเห็นตรงกับท่านยาขอบที่ว่า พระพายเป็นเพียงผู้นำกำลังและอาวุธของพระอิศวร (หรือพระศิวะ) มาซัดเข้าปากนางสวาหะและให้รับเป็นลูกเท่านั้น ดังกลอนตอนที่นางสวาหะถูกแม่สาปเพราะหลุดปากเรื่องลูกชู้ที่ว่า "มาจะกล่าวบทไป ถึงพระอิศวรนาถา แจ้งว่านวลนางอัจนา โกรธาสาปราชบุตรีไป ให้ยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลม ยอดพนมจักรวาลเนินไศล กูจะให้มีบุตรวุฒิไกร จะได้เป็นทหารพระจักราฯ คิดแล้วจึงแบ่งกำลัง สั่งองค์พระพายแกล้วกล้า เอาเทพอาวุธอันศักดา ทั้งกำลังกายาของเรานี้ ไปซัดเข้าปากสวาหะ จะเกิดบุตรเป็นกระบี่ศรี อันคทาเพชรเรืองฤทธี มีอานุภาพเกรียงไกร ให้เป็นสันหลังตลอดหาง จึ่งจะเดินทางอากาศได้ อันตรีเพชรสุรกานต์ชาญชัย ให้เป็นกายกรบาทา จักรแก้วอันเรืองฤทธิรอน เป็นเศียรวานรแกล้วกล้า อาวุธทั้งสามศักดา มหิมาประกอบเป็นอินทรีย์ มาตรแม้นจะล้างศัตรู ทั้งหมู่อสุรศักดิ์ยักษี ให้ชักเอาตรีเพชรฤทธี ที่อกกระบี่ออกราญรอน แล้วดูป้องกันอันตราย อย่าให้ใครกล้ำกรายดวงสมร ตัวท่านนั้นเป็นบิดร วานรในครรภ์นางเทวีฯ”
นัยจากกลอนที่บอกให้พระพายเอา "กำลัง” ของพระองค์ปาเข้าท้องนางสวาหะนี่แหละ ที่ทำให้สันนิษฐานกันว่า พระอิศวรน่าจะเป็นพ่อที่แท้จริงของหนุมาน
ทั้งนี้ มีการตีความว่า ตอนที่พระนารายณ์ปราบนนทุกได้สำเร็จ ก็นำความมาเล่าให้พระอิศวรเทวสหายฟัง เล่าเปล่าๆ คงไม่สนุกก็เลยมีการแปลงร่างและสาธิตท่าที่ยั่วยวนประกอบด้วย พระอิศวรดูไปดูมาคงอินไม่น้อย จึงมี "น้ำแห่งความสวาท” หลุดเผละออกมาหยดหนึ่ง ทันทีนั้นท่านก็รีบคว้าเก็บเอาไว้ เพราะถ้าหลุดออกไปคงไม่ดีแน่ อีกทั้งเจ้าหยดนี้ หากตกไปที่ไหนไม่ว่าบนโลก หรือใต้บาดาลล้วนจะก่อให้เกิดอันตรายต่อที่นั่นทั้งสิ้น เพราะพระอิศวรท่านเป็นหนึ่งในจอมเทพ อะไรๆ ในตัวท่านก็ล้วนศักดิ์สิทธิ์มีฤทธานุภาพ ขนาดเหงื่อไคลของท่านยังสามารถเสกเป็นลิงชื่อชมพูพานได้เลย ดังนั้น เมื่อประจวบเหมาะกับที่นนทุกต่อว่าต่อขานพระนารายณ์ว่ามีสี่กร เอาเปรียบตนที่มีเพียงสองมือเลยสู้ไม่ไหว พระนารายณ์เลยให้นนทุกไปเกิดใหม่มีสิบหน้า ยี่สิบมือและเหาะเหินเดินอากาศได้ ส่วนพระองค์จะอวตารไปเป็นมนุษย์ที่มีเพียงสองมือและไม่มีฤทธิ์เดช แต่จะเอาชนะนนทุกให้ได้ นนทุกจึงไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ ส่วนพระองค์ก็อวตารไปเป็นพระราม ด้วยเหตุนี้ เทพเทวดาทั้งหลายที่เป็นฝ่ายเดียวกับพระนารายณ์จึงต้องเอาใจช่วยและสนับสนุนด้วยวิธีต่างๆ เช่น เหล่าเทวดาได้จุติมาเป็นวานรสิบแปดมงกุฎเพื่อเป็นทหารช่วยรบ ส่วนพระอิศวรที่อาจกล่าวได้ว่าทรงเป็นต้นเรื่องที่ประทานนิ้วเพชรกับนนทุก ก็เห็นเป็นโอกาสที่จะจัดการกับเจ้าหยดนี้ของพระองค์พอดี จึงให้พระพายนำกำลังที่ว่าพร้อมเทพศัตราสามอย่างอันได้แก่ คฑาเพชร ตรีเพชร และจักรแก้ว ไปซัดเข้าปากนางสวาหะ จนกำเนิดเป็น "หนุมาน” ผู้เรืองฤทธิ์ ส่งไปเป็นผู้ช่วยพระรามรบกับทศกัณฐ์ต่อไป ซึ่งชื่อของหนุมานนี้ก็มาจากลักษณะคางที่ใหญ่เป็นพิเศษนั่นเอง (หนุ แปลว่า คาง)
การที่นางสวาหะต้องออกลูกเป็นวานร ไม่คลอดออกมาเป็นมนุษย์ก็เพราะนางกาลอัจนา แม่ของนางหรือยายของหนุมานได้สาปลูกสาวไว้ว่า ต้องออกลูกเป็นลิงเท่านั้นจึงจะพ้นคำสาป ซึ่งสาเหตุคงเพราะเจ็บใจฤษีสามีที่สาปลูกนางที่เกิดจากพระอาทิตย์และพระอินทร์ให้เป็นลิง ตอนพระฤษีโยนลูกทั้งสามคนลงน้ำแล้วอธิษฐานเสี่ยงทายว่าใครเป็นลูกตนก็ให้ว่ายกลับมาได้ ส่วนใครไม่ใช่ ก็ให้กลายเป็นลิง พาลีลูกพระอินทร์และสุครีพลูกพระอาทิตย์เลยกลายเป็นลิงเตลิดเข้าป่าไป และนี่อาจจะเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า "ถ้าไม่เชื่อหรือไม่จริง ขอให้ออกลูกเป็นลิง” ก็ได้นะ สำหรับนางกาลอัจนาต่อมาถูกฤษีสาปให้เป็นแผ่นหิน แล้วต้องถูกพระรามนำไปถมทะเลเพื่อทำทางไปยังกรุงลงกาในอนาคต ด้วยความโกรธแค้นที่นำความลับมาเปิดเผย นางจึงสาปนางสวาหะบุตรสาวยืนตีนเดียวอ้าปากกินลมตรงเชิงเขาจักรวาลดังกล่าว
นอกจากประเด็นที่ว่า หนุมานเป็นลูกพระอิศวรแล้ว บางตำรายังสันนิษฐานว่าหนุมานเป็นภาคอวตารของพระอิศวรอีกด้วย ถึงได้มีฤทธิ์เดชมากมายนัก ส่งไปสู้กับใครแทบจะไม่เคยแพ้ แถมอยู่ในท้องนางสวาหะนานถึง ๒ ปีกับอีก ๖ เดือน พอวันอังคาร เดือนสาม ปีขาล พญาวานรกายขาวผ่องก็คลอดโดยเหาะออกจากปากแม่ มีกุณฑล (ตุ้มหู)ขนเพชร เขี้ยวแก้ว และตรีเพชรเป็นอาวุธ มีร่างกายใหญ่โตเท่ากับเด็ก ๑๖ ขวบ เมื่อแสดงอิทธิฤทธิ์เต็มที่ก็จะมีแปดมือ สี่หน้า และหาวออกมาเป็นดาว เป็นเดือน ซึ่งลักษณะพิเศษที่มีกุณฑล ขนเพชรนี้ ปกติจะไม่มีใครเห็น ดังนั้น นางสวาหะจึงสั่งไว้ว่า ถ้าใครสามารถมองเห็น แสดงว่าผู้นั้นเป็นพระนารายณ์อวตารให้หนุมานถวายตัวเป็นทหารรับใช้พระองค์ ส่วนพระพายในฐานะพ่อนอมินิ (ถ้าถือว่าพระอิศวรเป็นพ่อแท้ๆ) ก็ให้พรว่าหากเกิดอันตรายถึงตายเมื่อใด ถ้ามีลมพัดมาก็ให้หนุมานฟื้นคืนชีพได้
มีข้อน่าสังเกตว่า หนุมานเกิดวันอังคาร ปีขาล ซึ่งตรงกับขุนแผนที่เกิดปีขาล วันอังคารเช่นกัน และต่างก็เป็นทหารหนุ่มเจ้าชู้ที่ขึ้นชื่อ เพียงแต่ขุนแผนมีเมีย ๕ คนได้แก่ สายทอง พิมพิลาไลย (วันทอง) ลาวทอง แก้วกิริยา และบัวคลี่ ส่วนหนุมานมีเมียถึง ๖ คน และแต่ละคนก็ล้วนได้มาจากตอนไปปฏิบัติภารกิจทั้งสิ้น เรียกว่า รบไปด้วย รักไปด้วย เมียๆ เหล่านี้ ได้แก่ นางบุษมาลี เมียคนแรก ได้ตอนไปสืบข่าวนางสีดา เป็นนางฟ้าที่ต้องคำสาป จะพ้นได้ต่อเมื่อได้ทหารเอกพระรามที่หาวเป็นดาวเป็นเดือน โยนนางกลับขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก่อนโยนหนุมานก็ปิ๊งนางและได้เป็นเมียเสียก่อน คนต่อมา คือ นางเบญกาย ได้ตอนพานางกลับกรุงลงกา หลังจากจับได้ว่าแปลงเป็นนางสีดาตายลอยน้ำมา แต่พระรามอภัยโทษให้เพราะเห็นเป็นลูกสาวพิเภกผู้ภักดี คนนี้มีลูกด้วยหนึ่งตนชื่อ อสุรผัด คนที่สามคือ นางสุพรรณมัจฉา ได้ตอนไปจองถนนเข้ากรุงลงกา นางเป็นลูกทศกัณฐ์กับนางปลา คนนี้มีลูกกับหนุมานชื่อ มัจฉานุ ส่วนคนที่สี่คือ นางวาริน เป็นนางฟ้าต้องคำสาปเหมือนกัน ได้ตอนไปตามหาวิรุญจำบัง และนางต้องบอกที่ซ่อนให้ถึงพ้นคำสาป สองคนสุดท้าย เป็นการได้เมียเพราะเล่ห์กล กล่าวคือ นางมณโฑ เมียคนที่ห้า ได้เพราะหนุมานต้องแปลงกายเป็นทศกัณฐ์ เพื่อไปทำลายพิธีหุงน้ำทิพย์โดยการร่วมหลับนอนกับนาง ส่วนคนที่หก คือ นางสุวรรณกันยุมา เมียอินทรชิต ที่ทศกัณฐ์ยกให้ ตอนที่หนุมานแกล้งไปสวามิภักดิ์ด้วยจะหากล่องดวงใจของทศกัณฐ์มาทำลาย จะเห็นได้ว่าหนุมานไปราชการที่ไหน ก็ได้เมียที่นั่น จนมีคนพูดว่าชื่อ "หนุมานชาญสมร” น่าจะหมายถึงชำนาญทั้งสนามรบและสนามรัก เพราะคำว่า "สมร” หมายถึง การรบ การสงคราม ขณะเดียวกันก็หมายถึง นางงามซึ่งเป็นที่รัก
อย่างไรก็ดี ก่อนสงครามจะสงบ ถึงจะมีเมียหลายคน แต่หนุมานก็ไม่มีเวลาอยู่กับเมียคนใดเลย เพราะต้องออกรบอยู่ตลอด และแม้จะทำความดีความชอบมากมาย กลับได้รับการปูนบำเหน็จจากพระรามเพียง ๓ ครั้งเท่านั้น คือ ครั้งแรก ได้ผ้าสรง ตอนที่ไปเผากรุงลงกา แล้วเข้าไปทูลพระรามตอนสรงอยู่พอดี ก็เลยได้ผ้าสรงเป็นรางวัล ครั้งที่สอง ได้ธำมรงค์ เมื่อตอนไปช่วยพระรามหลังจากถูกไมยราพจับไปขังที่เมืองบาดาล และครั้งที่สาม ได้เมืองนพบุรี (ลพบุรี)พร้อมสนม ๕,๐๐๐ คนตอนเสร็จศึกกรุงลงกาแล้ว พร้อมได้ชื่อพระราชทานใหม่ว่า "พญาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพัฒน์พงศา” ต่อมาด้วยยังติดวิสัยลิง ทำให้อดปีนป่ายและเกาหูเกาหัวไม่ได้ จนเป็นที่หัวเราะเยาะของนางสนมกำนัลใน หนุมานจึงเกิดความละอายขอคืนเมืองและลาไปบำเพ็ญพรตบวชเป็นดาบสอยู่ในป่าแทน ภายหลังเกิดเหตุกับพิเภกที่ไปครองกรุงลงกา อสุรผัดลูกเบญกายได้มาตามพ่อ เพื่อไปขอพระรามให้ช่วย ตนจึงต้องลาบวชออกไปช่วยพระรามรบด้วย
ตลอดทั้งเรื่อง หนุมานเคยเสียท่าอยู่ ๒ ครั้ง คือ เคยถูกอินทรชิตใช้ศรพรหมมาสตร์หวดจนตกจากคอช้างเอราวัณแปลง หล่นไปสลบกับพื้น กับอีกครั้งคือ ถูกพระมงกุฏ โอรสพระรามกับนางสีดา และพระลบ โอรสที่พระฤษีชุบขึ้นมาเป็นเพื่อนเล่นกับพระมงกุฏจับมัดด้วยเถาวัลย์แก้ไม่หลุด ต้องให้พระรามมาแก้ให้ นอกจากนี้แล้ว เรียกได้ว่า หนุมานสู้ไม่เคยแพ้ใคร สมแล้วที่พระอิศวรส่งมาเป็นทหารเอกของพระรามหรือพระนารายณ์อวตาร
............................................
น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม