
หนังสือสวดเรื่อง พระมาลัย หรือ สมุดมาลัย เป็นหนึ่งในสมุดไทย ที่มีทั้งเนื้อหาและภาพจิตกรรมประกอบเข้ากับเรื่องที่บรรยาย มักพบสมุดไทยประเภทนี้ตามวัดวาโบราณที่เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาและในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พบเกือบทุกวัดทั้งในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองในภาคกลาง เนื่องจากเป็นหนังสือที่นิยมใช้เป็นบทสวดสำหรับพระสงฆ์และคฤหัสถ์(ผู้ไม่ใช่นักบวช) ใช้สวดในงานศพ ด้วยคติความเชื่อเกี่ยวกับนรกสวรรค์จากเรื่องพระมาลัยมีอิทธิพลต่อพุทธศาสนานิกชนไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในทางศาสนา เรื่อง "พระศรีอาริยเมตไตรย” หรือ "ยุคพระศรีอาริย์” ถือเป็นสังคมในอุดมคติมีแต่ความสมบูรณ์พูนสุขอันเป็นสาระสำคัญที่กล่าวไว้ในสมุดมาลัย
ดินแดนลังกาทวีปมีพระเถระนามว่า พระมาลัย เป็นชาวเมืองโรหนะแถวชนบทในแคว้นกัมโพช ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทรงอภิญญาสมาบัติ มีอิทธิฤทธิ์เปรียบได้กับพระโมคคัลลานะอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งพระมาลัยได้ลงไปโปรดเหล่าสัตว์ที่ต้องรับวิบากกรรมจากที่เคยกระทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ สัตว์นรกต่างพากันขอพระมาลัยฝากความต้องการไปถึงญาติของตนให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ พระมาลัยจึงอนุเคราะห์ให้ตามที่ขอ และพระมาลัยยังนำเอาสภาพความทุกขเวทนาของเหล่าสัตว์ในนรกภูมิมาสั่งสอนชาวบ้านให้ละเว้นจากการทำกรรมชั่ว อีกด้วย
ในครั้งที่พระศรีอาริยโพธิสัตว์อุบัติเป็นท้าวสันดุสิตเทวราช ได้นำเทพบริวารจำนวนแสนโกฏิ จากสวรรค์ชั้นดุสิตมานมัสการพระเจดีย์จุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (ที่ประดิษฐานมวยผมก่อนทรงผนวชและพระเขี้ยวแก้วข้างขวาของพระพุทธเจ้า) ได้ตรัสสนทนากับพระมาลัยถึงศาสนาของพระองค์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และหากผู้ใดปรารถนาจะเกิดในยุคศาสนาของพระศรีอาริย์ต้องทำทานรักษาศีล ฟังเทศน์มหาชาติให้จบในวันเดียวและบูชากัณฑ์เทศน์มหาชาติด้วยเครื่องบูชาสิ่งละพัน พระโพธิสัตว์พระศรีอาริย์ยังพยากรณ์ถึงเหตุการณ์เมื่อศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันมีอายุครบ ๕,๐๐๐ ปี ว่าจะเกิดยุคเข็ญคนจะไร้ศีลธรรม ผู้มีธรรมมีปัญญา จะปลีกตนไปอยู่ตามป่าตามถ้ำ จนถึงกาลที่พระศรีอาริยเมตไตรยมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ แห่งภัทรกัลป์ เป็นยุคที่มนุษย์จะปราศจากการเบียดเบียนกัน จะมีอายุยืนถึง ๑ หมื่นปี ต้องการสิ่งใดก็ได้จากต้นกำมพฤกษ์ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ เมื่อพระมาลัยกลับมายังโลกมนุษย์ได้นำเรื่องราวนี้มาเทศนาสั่งสอนอุบาสกและอุบาสิกาทั้งหลาย...