สวธ.ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลการประกวดออกแบบลายผ้าไทยสู่สากลเพื่อการต่อยอดและพัฒนา (Cultural Textile Awards 2025) ภายใต้โครงการพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2568

ข่าวสาร >> ข่าวประชาสัมพันธ์

วันที่ 22 ก.ค. 2568

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ดำเนินการจัดกิจกรรมการประกวดออกแบบลายผ้าไทยสู่สากลเพื่อการต่อยอดและพัฒนา (Cultural Textile Awards 2025) ภายใต้โครงการพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการผ้าทอพื้นถิ่นของไทย นักออกแบบลายผ้ารุ่นใหม่ และนิสิตนักศึกษา ภายใต้แนวคิดจากหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย (Thai Textiles Trend Book) นำเสนอการสร้างสรรค์ลายผ้าไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และต่อยอดภูมิปัญญาสู่ความยั่งยืนสืบไป กิจกรรมการประกวดออกแบบลายผ้าไทยสู่สากลเพื่อการต่อยอดและพัฒนา (Cultural Textile Awards 2025) ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ได้แก่ การเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้จากหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย (Thai Textiles Trend Book) และชี้แจงแนวทางการประกวด กิจกรรมการประกวดออกแบบลายผ้าไทยสู่สากลเพื่อการต่อยอดและพัฒนา (Cultural Textile Awards 2025) ภายใต้โครงการพัฒนามรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2568 โดยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น และนักออกแบบที่มีชื่อเสียงและมากด้วยประสบการณ์จากเวทีแฟชั่นในระดับสากล ร่วมเป็นวิทยากร

หัวข้อในการประกวด แนวคิดหลัก "เงาแห่งอดีต Silhouette of The Past” องค์ความรู้ที่ได้จากหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 5 (Thai Textiles Trend Book Spring/Summer 2025) เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและสีย้อมธรรมชาติ ผสมผสานกับความงามอย่างเรียบง่ายของวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น แบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และสิ่งทอสร้างสรรค์ โดยเน้นที่การแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผ้าที่สามารถถ่ายทอดแรงบันดาลใจ แนวความคิดการประยุกต์ใช้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นออกมาเป็นผลงานการออกแบบผ้าที่สวยงามและสามารถผลิตได้จริง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดผู้บริโภค และสามารถพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ต่อไป

กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย นักออกแบบแฟชั่น และอาจารย์มหาวิทยาลัยในสาขาที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน ผศ.ดร.ธีระยุทธ์ เพ็งชัย ผศ.ดร.วุฒิไกร ศิริผล ดร.กรกลด คำสุข ผ.ศ.ดร.กิตติ์ธนัตถ์ ญาณพิสิษฐ์ ดร.แพรวา รุจิณรงค์ นางสาวณัฐธิดา พละศักดิ์ นายฐากร ถาวรโชติวงศ์ นายสธน ตันตราภรณ์ และนายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข เป็นต้น เพื่อพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานสร้างสรรค์ทั้ง 3 ประเภท ให้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 24 ผลงาน ซึ่งมีนิสิตนักศึกษา ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ส่งผลงานเข้าประกวดมากถึง 73 ผลงาน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และสิ่งทอสร้างสรรค์ ซึ่งคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกผลงานรอบแรกให้เหลือประเภทละ 12 ผลงาน รวมทั้งสิ้น 36 ผลงาน ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกได้ดำเนินการสร้างสรรค์ผลงานจากแบบร่างเป็นผลงานจริง และส่งให้คณะกรรมการพิจารณาตัดสินหาผู้ได้รับรางวัลในแต่ละประเภท รวมทั้งสิ้น 24 ผลงาน เมื่อวันพุธที่ 25 มิถุนายน 2568 เวลา 13.00 – 16.30 น. ณ หอนิทรรศการ G23 ชั้น 3 อาคารนวัตกรรม ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้ประกาศผลการตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามรายชื่อ ดังต่อไปนี้

ประเภทผ้าไหม

รางวัลชนะเลิศ ชื่อผลงาน พุทธศิลป์ถิ่นน่าน ชื่อผู้ประกวด นายเทิดศักดิ์ อินแสง จากจังหวัดน่าน

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ชื่อผลงาน มิยอมจำนนต่อกาลเวลา ชื่อผู้ประกวด นายธีรภัทร์ เพ็งพินิจ จากจังหวัดสุรินทร์

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ชื่อผลงาน สุนทรีโมเสก ชื่อผู้ประกวด กลุ่มฉันไท เฉลิมวุฒิ จากจังหวัดอุดรธานี

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน The Stratum ชื่อผู้ประกวด นางสาวรัตน์ตะวัน เรืองสมุทร จากจังหวัดสมุทรปราการ

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน โฮล สร้างสรรค์ ชื่อผู้ประกวด นายสราวุธ รัมพณีนิล จากจังหวัดสุรินทร์

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน รอยร่วมวิถีแห่งเรือนนา ชื่อผู้ประกวด นางสาวยุวนันท์ เชื้อดวงผุย จากจังหวัดสกลนคร

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน ชนบท (บ้านนอก) ชื่อผู้ประกวด นายสนธยา ชลธี จากจังหวัดกระบี่

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน บัวตูมแห่งความอุดมสมบูรณ์ ชื่อผู้ประกวด กองงานฝึกวิชาชีพทอผ้า เรือนจำกลางนครปฐม จากจังหวัดนครปฐม

ประเภทผ้าฝ้าย

รางวัลชนะเลิศ ชื่อผลงาน ZEBRA OF THE CLOUDS (ม้าลายเมฆ) ชื่อผู้ประกวด นายไอยรินทร์ รุ่นหนุ่ม จากจังหวัดลำพูน

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ชื่อผลงาน พรายุบาย (Phra Yu Bai) ชื่อผู้ประกวด นางสาวรัตน์ตะวัน เรืองสมุทร จากจังหวัดสมุทรปราการ

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ชื่อผลงาน จัก (สืบ) สาน ชื่อผู้ประกวด นายอาคม พันธ์พลเทพ จากจังหวัดนครราชสีมา

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน แนวน่าน ชื่อผู้ประกวด นางพัทธนันท์ อุ่นทา จากจังหวัดน่าน

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน สิ้นแสงอมร ชื่อผู้ประกวด นายวิวัฒน์ พร้อมพูน จากจังหวัดศรีสะเกษ

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน อุรังคธาตุ ชื่อผู้ประกวด นายปุณยวีร์ จันทอน จากจังหวัดนครพนม

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน แนวน่าน ชื่อผู้ประกวด นางอำพร อินจา จากจังหวัดน่าน

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน The first of Life ชื่อผู้ประกวด กลุ่มจังหวะโดนเส้น จากจังหวัดปทุมธานี

ประเภทสิ่งทอสร้างสรรค์

รางวัลชนะเลิศ ชื่อผลงาน THE SILHOUETT OF ISAAN "เงาแห่งอิสาน" ชื่อผู้ประกวด นายทวีศักดิ์ จัตุวัน จากจังหวัดร้อยเอ็ด

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ชื่อผลงาน เลือนลาง มิลับลา ชื่อผู้ประกวด กลุ่ม Rmi And The YTIM House จากจังหวัดสมุทรปราการ

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ชื่อผลงาน ภูษาศิลป์ถิ่นโนราห์ ชื่อผู้ประกวด นายปรเมธ เจริญวาที จากจังหวัดสงขลา

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน หัวใจนาคา ชื่อผู้ประกวด กลุ่มบึงมุกดา จากจังหวัดมุกดาหาร

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน Nostalgia ชื่อผู้ประกวด นางสาวรัญชิดาภรณ์ มูลสถาน จากจังหวัดสมุทรปราการ

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน The Past Never Disappeared ชื่อผู้ประกวด นางสาวทิรา เครือบุดดี จากจังหวัดสกลนคร

รางวัลชมเชย ชื่อผลงาน ไม่อาจลืม ชื่อผู้ประกวด นางสาวซัมมีย๊ะ ฮะกือลิง จากจังหวัดนราธิวาส

กรมส่งเสริมวัฒนธรรมกำหนดจัดงานมอบรางวัล กิจกรรมการประกวดออกแบบลายผ้าไทยสู่สากลเพื่อการต่อยอดและพัฒนา (Cultural Textile Awards 2025) ภายใต้โครงการพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2568 ในวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. ณ Sphere Gallery ชั้น M ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ โดย นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานในงานฯ นอกจากนี้ยังจัดแสดงผลงานผู้ได้รับรางวัลฯ ระหว่างวันที่ 30 - 31 กรกฎาคม 2568

ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานมอบรางวัล มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรม เรื่องผ้าไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรม มาต่อยอดสู่สากล สร้างคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชน ระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค ระดับชาติ อย่างยั่งยืน