
ด้วยวัย ๖๓ ปี บวกกับปณิธาน ของนายวิชชา ลุนาชัย ที่ได้ตั้งมั่นและใช้เป็นแรงผลักดันในการดำเนินชีวิตนักเขียน นักสร้างสรรค์วรรณกรรม ในนามปากกา "ประชาคม ลุนาชัย” ส่งผลให้ประสบความสำเร็จได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ เรื่องราวชีวิตของท่านมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก กว่าจะมาเป็นศิลปินนักเขียนที่ได้รับการยกย่องในวงการ ชีวิตต้องต่อสู้ดิ้นรน ฟันฝ่าด้วยจิตใจและพลังแห่งความมุ่งมั่น ผสานด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ทำให้พลิกชีวิตจากกรรมกรที่ใช้แรงทำงานสารพัดเพื่อให้ชีวิตได้รับโอกาสที่ดีขึ้น
นายวิชชา เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นชาวบ้านไผ่ ตำบลไผ่ อำเภอกุดชุม จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา แต่ต้องเข้ามาหางานทำในเมืองกรุง เพื่อให้มีเงินมาเรียนต่อที่ศึกษาผู้ใหญ่ โรงเรียนวัดราชบูรณะ เขตพระนคร จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในระหว่างนั้น ทำงานเป็นลูกจ้างตามสถานประกอบการต่าง ๆ เช่น ร้านอาหาร ภัตตาคาร รถส่งของ โรงงานห้องแถว ร้านทำรองเท้า รถรับซื้อของเก่า โรงน้ำชา สวนส้ม ไร่หอมหัวใหญ่ บ่อเลี้ยงกุ้ง ด้วยพื้นฐานเป็นคนที่รักการเรียน เมื่อมีโอกาส จึงได้ศึกษาด้วยตนเอง เช่น เรียนพิมพ์ดีด วาดรูป ถ่ายภาพ ภาษาอังกฤษ เป็นต้น
ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ชีวิตผลิกผัน เมื่อต้องไปทำงานเป็นลูกเรือประมง ทำให้มีประสบการณ์ในการออกน่านน้ำต่างประเทศ ทั้งเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในระหว่างนั้น มีความสนใจเรื่องการเขียนจึงเริ่มต้นเขียนเรื่องสั้น และในปี ๒๕๓๔ จึงได้อำลาชีวิตลูกเรือ ขึ้นบก แต่มาทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และได้เขียนเรื่องสั้น ส่งตามนิตยสารต่าง ๆ ผลงานได้ตีพิมพ์ ได้รวมเล่มและเริ่มได้รับรางวัลบ้าง พ.ศ. ๒๕๓๗ จึงลาออกจากงาน เพื่อใช้ชีวิตเป็นนักเขียนอย่างจริงจัง ปัจจุบันมีผลงานรวมเล่มทั้งหมด ๔๐ เล่ม ใช้นามปากกา "ประชาคม ลุนาชัย” ๓๘ เล่ม เป็นหนังสือ รวมเรื่องสั้น ๑๒ เล่ม นวนิยาย ๑๖ เล่ม บทความ ๕ เล่ม สารคดี ๔ เล่ม กวีนิพนธ์ ๑ เล่ม และใช้นามปากกา "เอกอรุณ”
ผลงานเขียน สะท้อนประสบการณ์และความเข้าใจชีวิตคนหาเช้ากินค่ำ สู้ชีวิตในสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำทางฐานะและชนชั้น ตั้งแต่ชีวิตลูกเรือประมงในทะเล จนถึงกรรมกรรับจ้าง ทั้งในชนบทและในเมืองใหญ่ รวมทั้งชีวิตนักเขียนเล็ก ๆ ที่ได้ค่าเขียนน้อยนิด ดังที่ปรากฏใน ฝั่งแสงจันทร์ คนข้ามฝัน กลางทะเลลึก เขียนฝันด้วยชีวิต ทั้งยังสามารถตีแผ่ธาตุแท้ความเป็นมนุษย์ ออกมาได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์วิกฤติของชีวิต เช่น หลายเรื่องในชุดเรื่องสั้น ลูกแก้วสำรอง เมืองใต้อุโมงค์ นักจิบแสงจันทร์ บินไปเหนือสะพานข้ามดาว และในนวนิยาย คนข้ามฝัน กลางทะเลลึก ในกับดักและกลางวงล้อม ไต้ก๋ง งานเขียนแสดงฝีมือทางวรรณศิลป์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ เลือกสรรค์และระดับภาษาได้เหมาะสม งดงามและสอดคล้องกับประเภทงาน เป็นแบบอย่างของนักเขียนผู้ใฝ่รู้และมีความ มานะพยายามศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ทั้งยังเป็นวิทยากรผู้สามารถนำประสบการณ์การเขียนมาถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่น
ท่านมีผลงานเขียนจำนวนมากได้รับรางวัลวรรณกรรม ทั้งรางวัลหนังสือดีเด่นของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด และอื่น ๆ รวมแล้วเกินกว่า ๓๐ รางวัล นวนิยาย ฝั่งแสงจันทร์ ได้รับคัดเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา ระดับมัธยมศึกษา ของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ ผลงานยังได้รับความสนใจนำมาศึกษาวิจัย และทำวิทยานิพนธ์ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้รับรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง (Mekong River Literature Award : MERLA) และ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้รับการประกาศเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน (สาขาวรรณศิลป์) จากฝ่ายศิลปวัฒนธรรม ศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ ศึกษาประวัติผลงาน เพิ่มเติม http://book.culture.go.th/artist64/mobile/index.html#p=135