search
ข่าวสาร
>>
ข่าวประชาสัมพันธ์
วธ.ชู “หมัดสั่ง” ผลักดัน Soft Power (The Story of Muay Thai) ปลุกกระแสความนิยม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
วันที่ 8 ก.ค. 2565
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG และผลักดัน "Soft Power” พลังวัฒนธรรมไทย (5 F) ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และ การอนุรักษ์และขับเคลื่อนเทศกาลประเพณี (Festival) สู่ระดับโลก เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยการใช้มิติวัฒนธรรมนี้ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศและสร้างรายได้ให้ประเทศไทย อีกทั้งปีนี้ วธ.มีวิสัยทัศน์ใหม่ คือ "วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย” และปรับเปลี่ยนบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ "วัฒนธรรมทำดี ทำงาน ทำเงิน” เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นำรายได้เข้าประเทศ
ปลัดวธ. เปิดเผยต่อว่า และจากการหารือการวางกรอบแนวทางและแผนปฏิบัติการในการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะ Soft Power ได้ข้อเสนอกรอบแนวทางการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศฯ ๓ องค์ประกอบหลักที่ต้องดำเนินการ ประกอบด้วย รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ ทุนทางวัฒนธรรม และชีวิตในสังคมและเศรษฐกิจ พร้อมกับยุทธศาสตร์ผลักดัน Soft Power ๓ ประการ คือ Knowledge ทำให้คนต่างชาติรู้จักประเทศไทย Attitude ปรับทัศนคติทำให้คนต่างชาติชื่นชอบประเทศไทย และ Practice ทำให้คนต่างชาติหันมานิยมไทยมากขึ้น โดยใช้พลังทางวัฒนธรรมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจนำเม็ดเงินเข้าประเทศ ปัจจุบัน มวยไทย คือหนึ่งใน พลังทางวัฒนธรรม ที่ชาวต่างชาติชื่นชอบให้ความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก กระทรวงวัฒนธรรม จึงให้การสนับสนุนศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการดำเนินการขับเคลื่อน Soft Power มวยไทย ในโครงการ เรื่อง "หมัดสั่ง : ฟื้นประวัติมวยไทยบนสังเวียนโลก” (The Story of Muay Thai) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่งดงามและแก่นแท้คุณค่าความเป็นไทยในเรื่องศิลปะการต่อสู้มวยไทย ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ศิลปะการต่อสู้มวยไทย ไปยังผู้ประกอบการภาคเอกชนของไทย ในด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเกี่ยวกับมวยไทยแบบครบวงจร ซึ่งสามารถรองรับทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศ พร้อมด้วยความร่วมมือจากกลุ่มธุรกิจสื่อบันเทิงชั้นนำของไทยประเภทสารคดี / ละครโทรทัศน์ / ภาพยนตร์ ด้วยการเปิดพื้นที่ความร่วมมือใหม่ในการสร้างแพลตฟอร์ม (Platform) อุตสาหกรรมสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทย ภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่างภาควิชาการ และภาคเอกชน ในการผลิตสื่อเพื่อใช้เผยแพร่เพื่อให้เกิดกระแสความนิยมในศิลปะการต่อสู้มวยไทย
ทั้งนี้ ผลผลิตสำคัญของโครงการ หมัดสั่งฯ คือ สารคดี (Documentary) เกี่ยวกับมวยไทยในเชิงประวัติศาสตร์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ภูมิหลังความเป็นมา และรูปแบบแม่ไม้ศิลปะท่าทางการต่อสู้ของมวยไทยที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตามภูมิภาคพื้นที่ต่าง ๆ อันสัมพันธ์กับภูมิปัญญาท้องถิ่น แนวคิด และปรัชญาอันลุ่มลึก โดยมีผู้ชูเรื่องหลัก คือ ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว) นักมวยชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยจะดำเนินการผลิดเป็น ๒ เรื่อง/เวอร์ชั่น ประกอบด้วย ๑.สำหรับเอกชนผู้ผลิตและร่วมลงทุน (บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด) นำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้ ซึ่งจะแบ่งการนำเสนอเป็น ๔ ตอน ตอนละ ๑๐ - ๑๕ นาที และ ๒.สำหรับเผยแพร่ให้ความรู้ ของหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจสามารถขออนุญาตนำไปเผยแพร่ได้ จำนวน 1 ตอน โดยมีความยาวประมาณ ๓๐ - ๔๕ นาที โดยสารคดีทั้ง ๒ เรื่อง/เวอร์ชั่น ดังกล่าว จะถูกนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ที่มี Impact สูงในระดับนานาชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ณ ประเทศฮ่องกง ประเทศจีน (เซี่ยงไฮ้) ประเทศญี่ปุ่น (โตเกียว) และประเทศฝรั่งเศส (คานส์) รวมทั้งเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในกลุ่มประเทศอาเซียน ผ่านความร่วมมือจากภาคีสำคัญ คือ กระทรวงวัฒนธรรม และ/หรือ ภาคีหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ The Asia Culture Center (ACC), Ministry of Culture, Sports and tourism, Korea (ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหารือความเป็นไปได้) เป็นต้น และขณะเดียวกันจะมีการนำสารคดีไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ การนำไปจัดจำหน่ายในตลาดสารคดีโลก รวมถึงนำไปเผยแพร่โฆษณาในกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับมวยไทยด้วย ผ่านความร่วมมือจากภาคีภาคเอกชนผู้ผลิตและร่วมลงทุน (บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด) ต่อไป
ลิขสิทธิ์ของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำหรับใช้ประโยชน์เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา
นโยบายเว็บไซต์
|
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
|
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์
|
การปฏิเสธความรับผิด (Disclaimer)