
เรื่องเล่าขาน ตำนานชีวิตของโนราคนแรก หรือ ครูต้นโนรา มีอยู่หลากหลายกระแส กระแสหนึ่งจากสำนวนพิธีกรรมโรงครูของชาวบ้าน โดย โนราพุ่ม เทวา หรือ ขุนอุปถัมภ์นรากร ได้ถ่ายทอดไว้ในหนังสือ เรื่อง "โนรา” สรุปความได้ดังนี้
มีกษัตริย์เจ้าเมืองพระนามว่า พระยาสายฟ้าฟาด มีพระราชธิดาชื่อ นางนวลทองสำลี คืนหนึ่งนางฝันเห็นกินนรมาร่ายรำให้ชม ลีลาท่ารำของกินนรงดงามมหัศจรรย์มาก ทำให้นางจดจำท่ารำทั้ง ๑๒ ท่าไว้ได้ ขณะที่ร่ายรำมีเสียงดนตรีบรรเลงประกอบด้วย เมื่อตื่นขึ้นมานางจึงร่ายรำตามลีลาและท่าทางตามความฝัน และเสวยเกสรดอกบัวเป็นอาหาร ต่อมานางได้ตั้งครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุ พระยาสายฟ้าฟาดโกรธมากจึงสั่งเนรเทศรพระธิดาพร้อมบริวารให้ลอยแพออกไปจากเมือง
แพของนางนวลทองสำลี ลอยออกไปในทะเลสาบใหญ่และไปติดที่เกาะกะชัง (ในทะเลสาบสงขลา) หลังจากนั้นนางได้ให้กำเนิดพระโอรสและสอนให้พระโอรสร่ายรำลีลาตามท่าทางของกินนรตามที่ได้ฝัน พระโอรสได้แอบหนีออกมาร่ายรำในเมือง ความทราบถึงพระยาสายฟ้าฟาดจึงสั่งให้พาเด็กชายเข้าวังเพื่อมาร่ายรำให้ชม ทำให้พระยาสายฟ้าฟาดประทับใจในการร่ายรำที่งดงามอย่างมาก ที่สำคัญหน้าตาของเด็กน้อยยังคล้ายคลึงกับพระธิดาของตน ภายหลังจึงรู้ความจริงว่าเด็กคนนี้เป็นหลานของตนนั่นเอง พระยาสายฟ้าฟาดจึงได้มอบเครื่องต้นและเทริดให้แก่เด็กน้อย และแต่งตั้งให้เป็น "ขุนศรีศรัทธา” เพื่อเป็นศิลปินที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการร่ายรำของอาณาจักร ต่อมาขุนศรีศรัทธาได้รับรับการยกย่องเป็น "บรมครูโนราผู้ยิ่งใหญ่” ที่เหล่านักแสดงโนราต่างนับถือสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม หนังสือ โนรา ศิลปะการร้อง รำ ที่ผูกพันกับชีวิต , พฤศจิกายน ๒๕๖๓