รุกขมรดกของแผ่นดิน ณ จังหวัดกาญจนบุรี มิใช่มีแต่ต้นยามจุรียักษ์อันเลืองชื่อเท่านั้น วันนี้แอดมินจะพาเพื่อนๆสายมูและสายไม่มูทั้งหลายไปรู้จักกับต้นกร่างหรือต้นนิโครธ ที่ศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ ตำบลหวายเหนียว อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ที่ยืนต้นทรงพุ่มเด่นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองอันร่มรื่นและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนหวายเหนียวกันนะคะ
ณ บริเวณศาลเจ้าเก่าแก่ของชุมชนหวายเหนียว เป็นอีกหนึ่งสถานที่คนในชุมชนที่ใช้เป็นศูนย์รวมทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน คนในท้องถิ่นเรียกขานกันว่า "ศาลเจ้าตึกในโพรงไม้” เพราะมีรากของต้นกร่างยักษ์ขึ้นปกคลุมศาลเจ้าตึกเอาไว้จนแยกไม่ออก ซึ่งตัวศาลถูกสร้างให้หันหน้าไปทางทิศเหนือติดกับแม่น้ำแม่กลอง สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยกรมศิลปากรได้ตรวจวิเคราะห์จากอิฐแดงและอิฐมอญของศาลเจ้า พบว่าอยู่ในสมัยสมัยอยุธยาตอนปลาย โดยมีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาของคนในชุมชนว่า ในสมัยก่อนมีการค้าขายทางเรือ พ่อค้าแม่ค้ามักจะแวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัย ค้าขายราบรื่นประสบความสำเร็จ แต่ในปัจจุบันผู้คนที่มาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีอยู่ ๒ ประเภท คือ พวกที่เดือดร้อนเช่นสอบเข้าราชการไม่ได้ หรือเดือดร้อนส่วนตัวมาขอจะประสบผลสำเร็จ โดยเคยมีข่าวว่าลูกชายอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งอยากเป็นนายตำรวจ พยายามสอบมาหลายปีก็ไม่ได้ แล้วลองมาขอศาลเจ้าแห่งนี้ก็เลยมากราบขอดู ปรากฏว่าปีนั้นลูกชายสอบได้นายตำรวจอย่างสมใจ อีกพวกหนึ่งคือพวกสายมู(ขอเลขเด็ด) บ้างก็มาขอเลขหวยรายวัน บางก็มาขอเลยหวยรายเดือน มากันทุกวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล
สำหรับต้นกร่าง หรือ ต้นนิโครธ (ต้นนิโครธ แปลว่าต้นไทร) จัดเป็นไม้มงคลตามพุทธประวัติที่พระกัสสปพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน และได้ตรัสรู้ ณ ควงไม้นิโครธ พระมหาสาวกมหากัสสปะ ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางถือธุดงค์ ส่วนต้นกร่าง ณ ศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ต้นนี้ เป็น ๑ ใน ๖๕ ต้น ในหนังสือ "รุกขมรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี” จัดทำขึ้นครั้งแรก โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖๕ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งมีลักษณะลำต้นตรงขึ้นเป็นพูพอนขนาด ๒๗ คนโอบ เรือนยอดแผ่กว้างปลายกิ่งลู่ลง ยืนต้นอยู่ริมฝ่างแม่น้ำแม่กลอง ทุกส่วนของลำต้นมียางสีขาว วัดเส้นรอบวงประมาณ ๑๘ เมตร สูงประมาณ ๒๕ เมตร แต่ละกิ่งเหมือนกับโคนต้นไม้ขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขารอบบริเวณศาลเจ้าตึก สันนิษฐานได้ว่าต้นไม้ดังกล่าวน่าจะมาอายุไม่น้อยกว่า ๓๒๐ ปี ซึ่งกรมศิลปากรได้ตรวจวิเคราะห์จากอิฐแดงอิฐมอญที่นำมาสร้างศาลเจ้าตึกนั้นเอง พบว่าอยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ศรีลังกา และปากีสถาน และได้แพร่กระจายพันธุ์ไปทั่วในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนิยมปลูกไว้ตาม ศาสนสถานหรือตามวัดวาอารามทั่วไป เพื่อเป็นไม้ให้ร่มเงาและเพิ่มความร่มเย็น จะไม่นิยมปลูกไว้ในบ้านเนื่องจากต้นกร่างมีขนาดใหญ่เกินไป ต้นกร่างเป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรแทบจะทุกส่วนก็ว่าได้ อาทิ เปลือกต้นทำเป็นยาชงใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้โรคเบาหวาน ใบใช้เป็นยาแก้ท้องร่วง ยางจากต้นใช้แก้โรคริดสีดวงทวาร รากนำมาเคี้ยวเพื่อช่วยป้องกันโรคเหงือกบวม เมล็ดใช้เป็นยาเย็นและยาบำรุงร่างกาย และผลสุกใช้รับประทาน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย เป็นต้น
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาสังคมไทยเรามีความเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่นั้น จะต้องมีเทวดารักษาหรือวิญญาณของบรรพบุรุษดูแล จึงเกิดความเชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีวัด มีพระ มีศาล หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้สัมพันธภาพของต้นไม้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้อาจไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมในทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นวิถีความเชื่อที่ไม่ได้เกิดผลร้ายกับใคร แต่ยิ่งทำให้ชุมชนเชื่อมั่น ระมัดระวังในการใช้ชีวิต และต้นไม้ใหญ่ที่มีความหมาย เชิงสัญลักษณ์ก็จะได้รับการดูแล อนุรักษ์ไว้เป็นพิเศษต่อไปตราบนานเท่านาน เช่นเดียวกับต้นกร่างยักษ์ ที่อยู่คู่กับศาลเจ้าตึกมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ทำหน้าที่ให้ร่มเงาแก่ผู้หนีร้อนมาพึ่งเย็นและเป็นเหมือนโรงงานผลิตอากาศบริสุทธิ์ของชุมชนแห่งนี้
เพื่อนๆ ที่อยากจะหนีกรุงแล้วมาปรุงฝัน เติมพลังชีวิตในวันหยุดยาวครั้งต่อไปก่อนปีใหม่ ทั้งสายมูและสายไม่มู แต่ถ้าเป็นสายมูแนะนำว่าต้องมาดูรากของต้นกร่างยักษ์ที่ขึ้นปกคลุมศาลเจ้าตึกที่อยู่ทางทิศใต้ หรือด้านหลังศาลเจ้าตึกมีอยู่หลายรากด้วยกัน ซึ่ง ๑ ในนั้นมีลักษณะคล้ายกับหัวของลูกช้างน้อยที่โผล่ออกมาให้เห็นได้อย่างเด่นชัด โดยมีทั้งส่วนของหัว ส่วนของงวงที่ยื่นออกมารวมทั้งดวงตาขนาดเล็กและปาก ยิ่งใช้สายตาจ้องนานเท่าไหร่ รากดังกล่าวก็ยิ่งเหมือนช้างมากขึ้นไปทุกที เห็นแล้วจะโชคดีได้ลาภก้อนโตต้อนรับปีใหม่ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ถ้ามีโอกาสผ่านมาเที่ยวเมืองกาญ อย่าลืมแวะไหว้ขอพร เจ้าแม่กวนอิมและพระสังขจาย และทำบุญให้อาหารปลา ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ รุกขมรดกของแผ่นดิน ต้นกร่างยักษ์ สูดอากาศบริสุทธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ณ ศาลเจ้าตึกในโพรงไม้กันนะคะ
สำหรับผู้ที่สนใจอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ทรงคุณค่า ทั้ง ๖๕ ต้น สามารถดาวน์โหลดหนังสือ "รุกข มรดกของแผนดิน ใต้ร่มพระบารมี” ได้ที่ http://tree.culture.go.th/mobile
............................................................
ขอขอบคุณที่มา : หนังสือรุกขมรดกของแผ่นดิน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม , http://ecoforest.phsmun.go.th/?p=130, https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=chapter&month=06-2016&date=27&group=1&gblog=68