
ใกล้จะมีวันหยุดยาวต่อเนื่องในเดือนธันวาคมนี้แล้ว เพื่อนๆวางแผนกันหรือยังว่าจะไปเช็คอิน เพื่อเติมพลังกันที่ไหนบ้าง ถ้ายังไม่มีอยากชวนมาเที่ยวกาญจนบุรี ชมต้นจามจุรียักษ์ เก็บภาพสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ฟอกปอดด้วยกันคะ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพการเดินทางสะดวกสบาย สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้
ต้นจามจุรี (ก้ามปู) ยืนต้นตระหง่านมีทรงพุ่มโดดเด่นงดงามตามธรรมชาติ ยิ่งช่วงที่ออกดอกสีชมพู่อ่อนบานสะพรั่งเต็มต้นยิ่งสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่ง Unseen ของสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี แลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับคนรักการท่องเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ ๑ กรมการสัตว์ทหารบก หมู่บ้านกสิกรรม ตำบลเกาะสำโรง อำเภอด่านมะขามเตี้ย ต้นจามจุรียักษ์มีอายุเกิน ๑๐๐ ปี รัศมีทรงพุ่มเฉลี่ย ๒๕.๘๗ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางร่มเงา ๕๑.๗๔ เมตร เส้นรอบวงร่มเงา ๑๖๒.๘๐ เมตร พื้นที่ร่วมเงา ประมาณ ๒,๑๐๑ ตารางเมตร เส้นรอบวงลำต้น (วัดที่ระดับความสูง ๑.๒๐ เมตร) ๗.๘๓ เมตร ความสูงเรือนยอด ๒๐ เมตร โดยมีพื้นที่ของพุ่มประมาณ ๑ ไร่เศษ เป็นต้นไม้ใหญ่ที่เราสามารถสัมผัสได้เมื่อไปถึงรู้สึกสงบ ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย สดชื่นและขณะเรานั่งอยู่ใต้ต้นจะมีลมพัดเย็นๆ ตลอดเวลายิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้อากาศปลอดโปร่ง ท้องฟ้าสีครามสดใส เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะแวะเช็คอินถ่ายรูปสวยๆมาอวดเพื่อนๆกันในโลกโซเชียล
ต้นจามจุรี นับเป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าต่อชุมชน สังคม เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนตั้งแต่รากจนถึงใบ อาทิ เนื้อไม้ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า เปลือกลำต้น ป่นให้ละเอียดใช้เป็นยาสมานแผล เมล็ดใช้เป็นยาสมุนไพรักษาโรคผิวหนัง ใบใช้ทำปุ๋ย เป็นต้น และสามารถนำเอกลักษณ์ความโดดเด่นความงดงามของต้นจามจุรีมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยจังหวัดกาญจนบุรีได้นำไปต่อยอดด้านการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมต้นไม้ใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดกาญจนบุรีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงามยิ่งขึ้น โดยมีการทำสะพานไม้ทางเดินเป็นวงกลมล้อมรอบต้นจามจุรียักษ์ เพื่อเป็นแนวทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวได้เดินชมรอบๆต้นจามจุรีแบบไม่ต้องไปเหยียบรากต้นไม้ให้เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังตกแต่งด้วยไม้ดอกนานาชนิดประดับไว้อย่างงดงามลงตัว เพื่อเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน แวะถ่ายรูปสวยๆไว้โพสต์ลงโซเชียลเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งของชีวิตได้มาดื่มด่ำและชมความงดงามความอลังการงานสร้างของธรรมชาติ ต้นจามจุรีมีลักษณะทั่วคือ เป็นไม้ผลัดใบ ยืนต้นขนาดใหญ่ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก คล้ายใบแค ออกดอกช่วงเดือนสิงหาคม-กุมภาพันธ์ ดอกจะรวมกันเป็นกระจุกสีชมพูอ่อน ผลเป็นฟักยาวสีเขียว ฝักแก่มีสีน้ำตาลเนื้อในนิ่มสีดำรสหวาน เมล็ดสีน้ำตาลเข้ม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกง่ายเหมาะกับดินทุกชนิด เป็นไม้กลางแจ้งถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ แถบประเทศ กัวเตมาลา เปรู โบลิเวีย บราซิล รวมทั้งในหมู่เกาะอิดิสตะวันตก
ต้นไม้ใหญ่เก่าแก่อายุ ๑๐๐ ปีขึ้นไปนับเป็นมรดกทรงคุณค่าของชาติที่บันทึกไว้ในหนังสือ "รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี” จัดทำขึ้นครั้งแรก โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖๕ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้คัดเลือกต้นไม้ใหญ่ที่ทรงคุณค่าในชุมชนต่างๆ ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยแต่ละต้นล้วนมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อยู่คู่แผ่นดินไทยมาช้านานอายุนับร้อยปี มีเรื่องราวและตำนานเล่าขานตราบจนปัจจุบัน ดังเช่น ต้นจามจุรียักษ์ที่จังหวัดกาญจนบุรี ก็เป็นต้นไม้ ๑ ใน ๖๕ ต้น ในหนังสือ "รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี” เช่นกัน วันหยุดนี้อย่าลืมแวะมาเที่ยวชมรุกข มรดกของแผ่นดิน ต้นจามจุรียักษ์ที่เมืองกาญกันนะคะ
สำหรับผู้ที่สนใจอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ทรงคุณค่า ทั้ง ๖๕ ต้น สามารถดาวน์โหลดหนังสือ "รุกข มรดกของแผนดิน ใต้ร่มพระบารมี” ได้ที่ http://tree.culture.go.th/mobile
.................................................