การแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT คาดเชือก อุทยานราชภักดิ์” ณ ลานอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ข่าวสาร >> ข่าวประชาสัมพันธ์

วันที่ 4 ก.พ. 2567

วันที่ ๔ ก.พ. ๖๗ เวลา ๑๘.๐๐ น. นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นำคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษา, นางสาวปราณิสา เตียวพิพิธพร ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและชุมชน พร้อมด้วย นายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด, นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเครือข่ายทางวัฒนธรรม เข้าร่วมชมการแข่งขันชกมวยไทยโลก "THAI FIGHT คาดเชือก อุทยานราชภักดิ์”

โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน THAI FIGHT คาดเชือก เป็นประธานในพิธีและขึ้นเปิดกรวยถวายราชสักการะสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (สมเด็จพระเจ้าเสือ) "พระบิดาแห่งมวยไทย” พร้อมด้วย พล.อ.สวราชย์ แสงผล” หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา, นายทหารชั้นผู้ใหญ่จากกองทัพบก, ผู้เข้าแข่งขันมวยไทยทั้งไทยและต่างประเทศ, สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงานฯ

การแข่งขันในครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด ๙ คู่ ดังนี้ คู่ที่ ๑ ชกแบบคาดเชือก ๖๕ กก. ระหว่างกล้าศึก ศิษย์จ่ากล้า (ไทย) VS โทฟิค อับดุลลาเยฟ (จอร์เจีย), คู่ที่ ๒ ชกแบบคาดเชือก ๖๕ กก. ระหว่าง ยูเนส เบนาลี่ (โมร็อกโก) VS ฟ้าลิขิต หมัดเด็ดมวยไทย (ไทย), คู่ที่ ๓ ( มวยหญิง ชกแบบคาดเชือก ๕๔ กก. ระหว่าง เวโร ว.รุจิรวงศ์ (เมียนมา) VS น้องบิวส์ ท.เทพสุทิน (ไทย), คู่ที่ ๔ ชกแบบคาดเชือก ๗๘ กก. ระหว่าง ไลอ้อน ว.ไพลิน (ไทย) VS อะบอลฟาซล์ เมห์ราซารัน (อิหร่าน), คู่ที่ ๕ ชกแบบคาดเชือก ๖๑ กก. ระหว่าง เขี้ยวเพชร เกียรติไพรสณฑ์ (ไทย) VS บาสเตียน อันกูโล่ (ชิลี), คู่ที่ ๖ ชกแบบคาดเชือก ๖๙ กก. ระหว่าง น้องโอ ช.ห้าพยัคฆ์ (ไทย) VS เควิน เปเรร่า (บราซิล), คู่ที่ ๗ ชกแบบคาดเชือก ๖๙ กก. ระหว่าง วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย (ไทย) VS โมฮัมหมัด มาห์ดี้ (อิหร่าน), คู่ที่ ๘ ชกแบบคาดเชือก มีการต่อน้ำหนักต่างกัน ๑ กก. ระหว่าง ป.ต.ท. อภิชาติฟาร์ม (ไทย) ๖๘ กก. VS ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม (ไทย) ๖๙ กก. และคู่ที่ ๙ ชกแบบสวมนวม ๖๘ กก. ระหว่าง แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย) VS อเด็ม คาบัค (ทูร์เคีย)

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์มวยไทย, การสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้านอาหาร Thai Fight Thai Food Thai Culture โดยสภาวัฒนธรรมแต่ละอำเภอ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และการถักมงคลประเจียดมวยไทย ให้ผู้เข้าชมงานได้เรียนรู้และร่วมประดิษฐ์เครื่องแต่งกายนักมวยสมัยโบราณ พร้อมรับเป็นที่ระลึก เช่น มงคล สวมศีรษะ ประเจียด ผูกกับต้นแขน เป็นต้น

ทั้งนี้ นายโกวิท ผกามาศ” อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้การสนับสนุน Thai Fight ได้สืบสานการจัดแข่งขันมวยไทยคาดเชือก ซึ่งเป็นกีฬาการละเล่นพื้นบ้าน อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดย อธิบดีฯ สวธ. กล่าวว่า การจัดกิจกรรม Thai Fight ในครั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้และความสำคัญของมวยไทยสร้างความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้นกับคนไทยทั้งประเทศ อีกทั้งยังเป็นการถ่ายทอดและสืบสานมรดกภูมิปัญญาของชาติด้านมวยไทยให้คงอยู่สืบไป และมีแผนการดำเนินงานเผยแพร่มวยไทยร่วมกับ THAI FIGHT โดยการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านวัฒนธรรมประเพณี ในด้านพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย เช่น การบวงสรวง การไหว้ครู การครอบครูมวยไทย การจัดทำเนื้อหานิทรรศการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับมวยไทยให้แพร่หลาย ส่งเสริมองค์ความรู้คุณค่า สาระในด้านมวยไทย และด้านอื่น ๆ เกี่ยวกับด้านมวยไทย ควบคู่กันไปกับการจัดงานในการเผยแพร่มวยไทยร่วมกับ THAI FIGHT ต่อไป รวมถึงจัดทำมาตรการเพื่อขอขึ้นทะเบียนรายการมวยไทย เป็นตัวแทนรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก อีกด้วย

โอกาสนี้ ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้ร่วมกันเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ "พระบิดาแห่งมวยไทย” สืบสานศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ และร่วมสร้างพลังขับเคลื่อน มวยไทย ให้พร้อมขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติต่อยูเนสโก