search
ข่าวสาร
>>
ข่าวประชาสัมพันธ์
วธ.พร้อมฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่น รามเกียรติ์ ตอน “รามาวตาร” ฉลองโขนไทยได้ขึ้นบัญชีมรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ พร้อมเชิญชวนประชาชน ร่วมสร้างประวัติศาสตร์เป็นเจ้าภาพปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน ๒๕๖๒
วันที่ 6 มี.ค. 2562
วันอังคารที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ ตึกบัญชาการ ๑ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการภาพยนตร์แอนิเมชั่น "รามเกียรติ์ จากจิตรกรรมรอบ พระระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม” ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยมีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) พร้อมนายกฤษศญพงศ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ให้การต้อนรับและนำชมนิทรรศการฯ การสาธิตการทำแอนิเมชั่นจากท่าทางโขน พร้อมชมตัวอย่างภาพยนตร์ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวและฉายรอบปฐมทัศน์ ในวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซินีเพล็กซ์ และฉายให้ประชาชนทั่วไปได้ชมช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม นี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า การผลิตและฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่น รามเกียรติ์ ตอน "รามาวตาร” นี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสที่ยูเนสโก ประกาศขึ้นบัญชี "โขน” ในประเทศไทย "Khon,masked dance drama in Thailand” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ ด้วย โขน ถือเป็นศิลปะการแสดงอันล้ำค่าของประเทศ ที่ได้นำวรรณกรรม เรื่อง รามเกียรติ์ มาเผยแพร่ในรูปแบบการแสดงโขน ที่จัดแสดงในวาระต่าง ๆ ทั้งที่เป็นมหรสพสมโภช และเพื่อความบันเทิงในโอกาสทั่วไป ซึ่งการถ่ายทอดเรื่องราวสาระต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ในรามเกียรติ์ผ่าน "โขน” นั้น ยังไม่แพร่หลายในวงกว้าง จำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบเท่านั้น และการแสดงโขนแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ประชาชนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เข้าชมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชน ประชาชนยุคดิจิทัล ให้ความนิยมบริโภคความบันเทิงผ่านสื่อออนไลน์มากกว่า
นายวีระ กล่าวต่อว่า เพื่อให้เข้าถึงประชาชนยุคดิจิทัลได้เข้าถึงภูมิปัญญาอันล้ำค่านี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จึงมีแนวคิดนำจิตรกรรมเรื่อง รามเกียรติ์ รอบระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่มีความงดงามและทรงคุณค่าทางศิลปกรรม มาผลิตและถ่ายทอดในแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่น ให้เข้าถึงการรับรู้ของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้ เสมือนได้มาศึกษาจากระเบียงพระอุโบสถด้วยตนเอง โดยเลือกเนื้อหาตอน "รามาวตาร” ที่กล่าวถึงมูลเหตุแห่งการอวตารของพระนารายณ์เป็นพระรามเพื่อปราบทศกัณฐ์ ซึ่งสอดคล้องกับคติความเชื่อ ของคนไทยที่ถือว่าพระมหากษัตริย์ คือ องค์อวตารของพระนารายณ์ ทั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศและแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย และคาดหวังให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เข้าใจในเนื้อหาสาระได้ง่าย ผสานกับความสนุกสนาน ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศให้ปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน ตามที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นประธานอาเซียน อีกด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซินีเพล็กซ์ ลานกิจกรรม ชั้น ๖ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์แอนิเมชั่น รามเกียรติ์ ตอน "รามาวตาร” ต่อด้วยงานเสวนาเบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์ นำโดย นนทรี นิมิบุตร ผู้อำนวยการสร้างพร้อมทีมงาน อธิปัตย์ กมลเพ็ชร ผู้กำกับภาพยนตร์ ศิลปินดารา เอี๊ยม วรรษพร วัฒนากุล ผู้พากย์เสียง "นางสีดา” เดวิส อัศวนนท์ ผู้พากย์เสียง "ทศกัณฐ์” จากนั้น เป็นการฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ (สื่อมวลชน) จากนั้นในช่วงเดือนเมษายน ถึง พฤษภาคม ๒๕๖๒ จะมีการจัดฉาย พร้อมจัดแสดงนิทรรศการ/กิจกรรมให้ความรู้ ให้ประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ได้ชมฟรี รอบ ๑๔.๓๐ น. ดังนี้ -ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร วันที่ ๑๓ – ๑๔ เม.ย. ๖๒ SF world cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ -ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี วันที่ ๔-๕ พ.ค. ๖๒ SFX cinema เซ็นทรัล เฟลติวัล พัทยาบีช -ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ ๒๐ – ๒๑ เม.ย. ๖๒ SFX cinema เมญ่า เชียงใหม่ -ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ๒๗ – ๒๘ เม.ย. ๖๒ SF cinema เซ็นทรัล ขอนแก่น -ภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๑๑-๑๒ พ.ค. ๖๒ เวลา ๑๔.๓๐ น. SF cinema เซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ เพื่อสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างประเทศ ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน ยังมีการจัดฉายภาพยนตร์แอนิเมชั่น รามาวตาร พร้อมนิทรรศการให้ความรู้ ในวันที่ ๒๔ เม.ย.๖๒ ณ กรุงจาการ์ตา และ ในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๒ ณ เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในส่วนของประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบรอบฉายและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.culture.go.th หรือ เฟสบุ๊กกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ลิขสิทธิ์ของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำหรับใช้ประโยชน์เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา
นโยบายเว็บไซต์
|
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
|
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์
|
การปฏิเสธความรับผิด (Disclaimer)